Press "Enter" to skip to content

โซเชียลมีเดีย: โซเชียลมีเดียสามารถสร้างความไม่แยแสได้หรือไม่?

เมื่อมีคนใช้โซเชียลมีเดีย พวกเขาสามารถนึกถึงสิ่งเดียวหรือหลายอย่างก็ได้ ตัวอย่างเช่น บางคนอาจใช้เพื่อส่งข้อความถึงใครบางคน หรือพวกเขาสามารถใช้เพื่อแบ่งปันการอัปเดต

ในกรณีนี้ พวกเขาจะมีสิ่งหนึ่งอยู่ในใจ และจากนั้น พวกเขาก็สามารถทำมันออกมาได้ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีสิ่งหนึ่งที่อยู่ในใจ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะไม่มองผ่านสิ่งที่คนอื่นแบ่งปันหรือมองว่าสิ่งที่ ‘กำลังเป็นกระแส’

ระหว่างทาง

สิ่งที่เกิดขึ้นคือเราสามารถเจอสิ่งเหล่านี้ก่อนที่จะส่งการนวดหรือแบ่งปันสถานะ เช่นเดียวกับที่เราสามารถหยุดที่ร้านค้าไม่กี่แห่งก่อนถึงจุดหมายปลายทาง พวกเขาสามารถเจอสิ่งอื่นๆ อีกสองสามอย่างก่อนที่จะทำอะไรบนโซเชียลมีเดีย

เราสามารถมองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิต ‘เพื่อน’ ของพวกเขาและในโลกได้อย่างรวดเร็วก่อนที่พวกเขาจะทำในสิ่งที่ต้องทำ แต่เมื่อมีตัวเลือกนี้ พวกเขาอาจพบว่าพวกเขาฟุ้งซ่านเป็นครั้งคราว

พูดถึงวันที่

ในทางกลับกัน เราสามารถใช้มันได้เพราะพวกเขาต้องการทราบว่า ข่าวกีฬาไทย ‘เพื่อน’ ของพวกเขากำลังทำอะไรอยู่ และนั่นหมายความว่าพวกเขาจะไม่ได้อยู่ที่นั่นเพื่อทำอะไรเป็นพิเศษ พวกเขาอาจมีเวลาว่างสักสองสามนาทีหรือสองสามชั่วโมง

และในขณะที่ใคร ๆ ก็สามารถทำอย่างอื่นได้เมื่อหมดเวลา พวกเขาอาจจะอยู่ที่นั่นนานกว่าที่พวกเขาตั้งใจไว้ ด้วยเหตุนี้ พวกเขาอาจพบว่าไม่สามารถทำสิ่งที่พวกเขาวางแผนไว้ได้ หรืออาจไม่สำคัญเลยก็ได้

ข่าว

นอกจากนี้ยังสามารถใช้เพราะพวกเขาต้องการค้นหาเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในโลก จากการดูว่าอะไรเป็น ‘เทรนด์’ เราสามารถเชื่อได้ว่าพวกเขากำลังติดตามสิ่งที่เกิดขึ้นในโลก

นี่ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะต้องการค้นหาเกี่ยวกับประเภทของข่าวที่อยู่ในกระดาษหรือในช่องทีวี เนื่องจากพวกเขาอาจต้องการค้นหาเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกบันเทิง ในความเป็นจริง นี่อาจเป็นสิ่งที่พวกเขาเชื่อว่าเป็นข่าว และทุกสิ่งทุกอย่างอาจถูกมองว่าไม่มีนัยสำคัญ

ลำดับความสำคัญของพวกเขา

แม้ว่านั่นจะไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาเห็นว่าไม่มีนัยสำคัญ แต่ก็อาจไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาให้ความสำคัญ ประเภทของข่าวที่พวกเขาสนใจอาจเป็นสิ่งที่คนดังบางคนกำลังทำอยู่และภาพยนตร์ที่กำลังจะเข้าฉาย เป็นต้น

แต่ถ้าใครต้องการทำความเข้าใจโดยทั่วไปเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น พวกเขายังคงสามารถมองผ่านสิ่งที่เป็น ‘เทรนด์’ ได้ จากนั้นพวกเขาจะไม่ต้องดูข่าวทางทีวีหรืออ่านหนังสือพิมพ์ เนื่องจากข้อมูลทั้งหมดที่พวกเขาต้องการจะอยู่บนออนไลน์

ข่าวเดียวกัน

หากลองย้อนกลับไปดูข่าวประเภทต่างๆ ที่มีอยู่ในสื่อสังคมออนไลน์ แล้วพิจารณาดูว่าสื่อกระแสหลักครอบคลุมเนื้อหาใดบ้าง พวกเขามักจะพบว่าเป็นข่าวเดียวกัน วิธีหนึ่งในการมองสิ่งนี้คือการบอกว่านี่เป็นเพราะพวกเขาครอบคลุมเฉพาะสิ่งที่สำคัญเท่านั้น

อีกวิธีในการมองก็คือการบอกว่าโซเชียลมีเดียเป็นอีกวิธีหนึ่งที่สื่อกระแสหลักจะกำหนดเงื่อนไขให้กับผู้คน ข้อแตกต่างหลักคือไม่จำเป็นต้องดูทีวีหรืออ่านบทความเพื่อให้สิ่งนี้เกิดขึ้น พวกเขาต้องมีอุปกรณ์เท่านั้น

ความสนใจ

ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ต้องพยายามเรียกร้องความสนใจอีกต่อไป สิ่งเดียวที่พวกเขาต้องการคือต้องมีอุปกรณ์และใช้โซเชียลมีเดีย และในโลกปัจจุบัน เป็นเรื่องของผู้ที่ไม่ใช้มากกว่าผู้ที่ทำ

นอกจากนี้ เราสามารถใช้โซเชียลมีเดียได้ตลอดทั้งวัน และนั่นหมายความว่ามันง่ายกว่ามากในการปรับเงื่อนไขเหล่านั้น ในแง่หนึ่ง สิ่งนี้สามารถเกิดขึ้นได้โดยตรงจากการอ่านเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น และในทางกลับกัน สิ่งนี้สามารถเกิดขึ้นทางอ้อมได้จากการที่เราเพิ่งรู้ว่าอะไรคือ ‘เทรนด์’

การเปิดรับแสง

สิ่งนี้คล้ายกับการที่เราจะซื้อบางอย่างหลังจากที่พวกเขาเห็นโฆษณา พวกเขาอาจไม่รู้ว่ามันดีแค่ไหน แต่มันจะโดดเด่นในครั้งต่อไปที่พวกเขาไปซื้อของ

และเมื่อพูดถึงสิ่งที่ ‘กำลังเป็นกระแส’ จิตใจของคนๆ หนึ่งจะรับสิ่งที่กล่าวถึง และสิ่งนี้อาจส่งผลต่อทัศนคติของพวกเขา ตัวอย่างเช่น หากมีคนถามพวกเขาว่าพวกเขาคิดอย่างไรกับบางสิ่งที่เกิดขึ้นในโลก คำตอบของพวกเขาอาจถูกกำหนดโดยสิ่งที่เป็น ‘เทรนด์’ บนโซเชียลมีเดีย